วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

“อภิวันท์ วิริยะชัย”สุดเหิม โหน “เจ้า” ตุ๋น “ไพร่แดง”




ถ้าหาก “พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย” รองประธานสภาผู้แทนราษฎรยังคงมี “ยางอาย” อยู่บ้าง นอกจากจะต้องทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว ยังจะต้องประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเลิกเล่นการเมืองไปตลอดชีวิต เพราะการมั่วนิ่มแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อตุ๋น “ไพร่แดง” นั้น เป็นความผิดที่มิอาจให้อภัยได้

กล่าวคือในการปราศรัยของ พ.อ.อภิวันท์ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้กล่าวอ้างถึงสถาบันเบื้องสูงว่า “เช้าวันนี้ นายทหารราชองครักษ์ของพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์หนึ่งได้มาเยี่ยมเยียนการชุมนุมของคนเสื้อแดง ทำให้ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่กล้าใช้กำลังปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดง”

ทั้งนี้จากข้อความดังกล่าวของนายอภิวันท์ ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงที่ขึ้นเวทีตามมาต่างนำข้อความดังกล่าวไปปราศรัยขยายความอย่างต่อเนื่อง

การปราศรัยของ พ.อ.อภิวันท์มิอาจตีความเป็นอย่างอื่นว่า มีเจตนาที่ต้องการสื่อให้คนเสื้อแดงทราบว่า ม็อบของพวกเขามีสถาบันหนุนหลัง เป็นการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเกราะป้องกันและเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ก็มีประจักษ์พยานพิสูจน์ว่า พ.อ.อภิวันท์กระทำการอันไม่บังควรจริง

กล่าวคือ ก่อนหน้าที่ พ.อ.อภิวันท์จะนำเรื่องนี้มาพูดนั้น หน้า 14 ของหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 25 มี.ค.ได้รายงานเอาไว้ว่า “เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 23 มี.ค. นายสมาน สันธนะ หัวหน้าชุดช่างภาพประจำพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขับรถมอเตอร์ไซต์มากับเจ้าหน้าที่กองงานในสมเด็จพระบรมฯ เข้ามายังเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงบนสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จากนั้นนำกล้องวิดีโอและกล้องถ่ายรูปดิจิตอลมาถ่ายภาพการปราศรัยของบรรดาแกนนำและบรรยากาศการชุมนุม สักครู่หนึ่ง แกนนำที่ปราศรัยทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า “พระองค์ท่านทรงไม่ทอดทิ้งกลุ่มผู้ชุมนุม และขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนเปล่งเสียงทรงพระเจริญพร้อมกัน 3 ครั้ง” จากนั้นผู้ชุมนุมก็เปล่งเสียงทรงพระเจริญ 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่ทั้งสองใช้เวลาบันทึกภาพประมาณ 15 นาที ก่อนเดินทางกลับไป”

ทว่า ในวันต่อมา หน้า 15 ของหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 26 มี.ค.ก็ได้รายงานข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “รายงานข่าวจากสำนักพระราชวังระบุว่า “ตามที่ ร.อ.สมาน สันทนะ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ มาเก็บภาพบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ประจำวันได้ละทิ้งหน้าที่ไปที่ชุมนุมทางการเมืองที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยแต่งเครื่องแบบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ อันเป็นการประพฤติที่ไม่เหมาะสมและเป็นการกระทำโดยพลการ จึงให้พ้นจากหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไป”

นี่คือประจักษ์พยานยืนยันชัดเจนถึงความเหิมเกริมของ พ.อ.อภิวันท์

อย่างไรก็ตาม คงไม่เป็นที่แปลกใจอะไรมากนัก เพราะหากยังจำกันได้ พ.อ.อภิวันท์คนเดียวกันนี้ยังได้เคยกระทำการที่แสดงเจตนาชน “ฟ้า” มาแล้วด้วยวาทกรรมสะท้านชาติเรื่อง “ราชวงศ์โรมานอฟ”

ในครั้งนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ได้ตอบกลับมาว่า “ตนพูดไปหลายครั้งว่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้ความแตกแยกของประเทศไทยก็ไปเหมือนกับรัสเซียในราชวงศ์โรมานอฟ และฝรั่งเศสในเหตุการณ์คุกบาสตีล จีนในราชวงศ์เหี้ยนเต้ ซึ่งเป็นกรณีที่คนรากหญ้าออกมาต่อสู้กับอำมาตย์ เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะแก้ไข ซึ่งในเมืองไทยสามารถแก้ไขได้ ถ้าผู้มีอำนาจเข้าใจปัญหาและมีจิตสำนึก เพราะขณะนี้ประชาชนใน กทม.ให้การตอบรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีและคนที่เหนือกว่านายกรัฐมนตรีควรจะพิจารณา”

ขยายความเพิ่มเติมก็คือ ราชวงศ์โรมานอฟนั้น เป็นราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซียที่ถูกโค่นล้มเมื่อปี ค.ศ.1917 โดยพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย และมีการสังหารพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 พร้อมด้วยพระราชินีอเล็กซานดรา พระราชโอรสและพระราชธิดาอย่างโหดเหี้ยม

ด้วยเหตุดังกล่าว การที่เขามีพฤติกรรมและคำพูดเยี่ยงนี้เริ่มจากโรมานอฟถึงการแอบอ้างเบื้องสูง สังคมคงไม่แปลกใจอะไรกับพฤติกรรมของ พ.อ.อภิวันท์เท่าใดนัก

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากประวัติส่วนตัวไอ้นี่ก็ได้ดีพอสมควรอีกทั้งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากนายหลวง แต่คนอย่างนี้ที่เคยเข้าเฝ้าสาบานตนต่อหน้าพระพักต์กลับไปเป็นขี้ข้าคนอย่างไอ้ทักษิณ มากกว่าที่จะเป็นข้าพระเจ้าแผ่นดินก็มันเห็นแก่เงินนะชิ ผมเชื่อว่าคนอย่างนี้มันกล้ากราบตีนทักษิณและสาบานตนว่าจะขอเป็นขี้ข่าจนวันตาย(ต้องจ่ายตังด้วยนะพ่อ) เลวยังไม่พอยังรบหลูพ่อหลวงของเราอีก ไอ้พวกแกนนำพวกนี้ไม่รักไอษิณจริงหลอก หวังสตังค์ไบ้านั่นก่อมอ๊บก็ได้ตัง จตุพรทำงอนก็ง้อหน่อยเอาตังให้มันมันก็มาจ้างคนโง่มานั่งฟังหารู้ไม่โดนอมตังค่าฟัง เออเมื่อไรจะฉลาดนะและเลิกจาบจ้วงพ่อหลวงได้แล้ว