วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

“เพ็ญ” ปากดีเหน็บพันธมิตรฯ รับจ้าง “คนอยู่เหนือ”





“เจ๊เพ็ญ” จีบปากร่วมปราศรัยปลุกระดมคนเสื้อแดงที่สนามศุภฯ ปากกล้าจะจัดการกับพันธมิตรฯ ในข้อหาก่อการร้ายให้ได้ อ้างต่างชาติรู้แล้วเบื้องหลังเป็นใคร โวเสื้อแดงพร้อมชุมนุมยืดเยื้อและขยายไปทั่วประเทศ ปิดท้ายอ่านกลอนเหน็บแนมพันธมิตรฯ ยึดสนามบินไม่มีใครกล้าจับเพราะรับจ้าง “คนอยู่เหนือ” แถมเป่าหู “ถ้ารำคาญหมาต้องตีเจ้าของหมา” วันนี้ (13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.15 น. นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้กล่าวปราศรัยบนเวที รายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดโดยกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างชื่อเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งช่าติ หรือ นปช.ที่สนามศุภชลาศัย โดยเนื้อหลักที่กล่าวคือ การมุ่งโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่ต้องจัดการนำตัวมารับโทษให้ได้ ซึ่งแม้วันนี้ทางแกนนำกลุ่ม นปช.อาจจะเหมือนกับไม่ได้ดำเนินการอะไรมากนัก แต่ก็อยากให้แนวร่วม นปช.ทุกคนอดใจรอต่อไปอีกนิด เพราะแกนนำ นปช.สัญญาว่าจะต้องผลักดันให้มีการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างแน่นอน และโทษในการเอาผิดนั้น ตนเชื่อว่าสามารถเอาผิดได้แน่นอน และเป็นโทษสถานหนักเสียด้วย เพราะอย่างในต่างประเทศกลุ่มคนที่กระทำการก่อการร้าย การลงโทษนั้นถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว นายจักรภพ กล่าวต่อว่า เรื่องการชุมนุมที่ทำตัวเหมือนผู้ก่อการร้ายของพันธมิตรฯ นั้น แต่ก่อนสื่อต่างชาติเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดประเทศไทยจึงไม่ยอมดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่กระทำการเข้าข่ายผู้ก่อการร้าย ซึ่งเราก็ทำได้เพียงกระซิบบอกเหตุผลเขาเบาๆ เท่านั้น แต่จนถึงวันนี้เราคงไม่ต้องกระซิบบอกใครแล้ว เพราะสื่อต่างชาติเขาได้ตะโกนบอกให้โลกได้รู้แล้วว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า จุดมุ่งหมายในการชุมนุมของ นปช.นั้นเกิดขึ้นมาเพื่อทำลายผู้ก่อการร้ายอย่างพันธมิตรฯ แล้วตามด้วย ทำลายพรรคการเมืองที่เป็นข้าทาสของผู้ก่อการร้าย รวมไปถึงต่อต้านการรัฐประหารทั้งในรูปและซ่อนรูป ดังนั้นจึงอยากเตือนไปยังกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับในระบอบประชาธิปไตย รวมถึงบรรดากลุ่มคนที่อยู่ในระบอบนิติธรรมด้วยว่า “อย่าคิดว่าใส่เสื้อครุยแล้วจะรอดไปได้ ถ้าไม่อยู่ในหลักการของประชาธิปไตย” นอกจากนี้ ตนยังเชื่อว่า กิจกรรมของคนเสื้อแดงจะยาวนานไปตลอดปี และขยายไปทั่วประเทศ มีคณะทำงาน มีการจัดกิจกรรม และถ่ายเลือดไปยังลูกหลาน ให้ทุกครอบครัวมีความเป็นประชาธิปไตยในสายเลือดทุกคน เพื่อที่จะมาต่อต้านเผด็จการร่วมกัน ในช่วงท้ายการปราศรัย นายจักรภพได้กล่าวโจมตี นายเนวิน และ นายชัย ชิดชอบ ด้วยว่า ทำตัวเป็นพวกชุบมือเปิบ ที่แอบอ้างเอาผลงานดีๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการโอทอป โครงการแปรสินทรัพย์เป็นทุน ฯลฯ ไปเป็นความดีความชอบของตัวเอง และวันนี้ก็จะเอาความดีของโครงการเหล่านั้นไปต่อยอดแล้วแอบอ้างว่าผลงานเหล่านั้นเป็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งนายเนวิน กำลังสนับสนุนให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นนายจักรภพ ได้กล่าวบทกลอน เป็นการทิ้งท้ายซึ่งมีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ โดยบทกลอนดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้ “ยุบแล้วยุบอีกจึงฉีกขาด เพราะยุบซ้ำธงชาติจึงขาดวิ่น นอนซมล้มป่วยระรวยริน ชาติจะสิ้นกรรมหรือไม่ได้รู้กัน เอาประเทศชาติเป็นราชพลี กลับเอาศักดิ์ศรีมาห่ำหั่น หลักกฎหมายพักวินาศเพราะฟาดฟัน เพราะอัตตาสุดขั้นสุดบรรยาย ประชาชนอยู่ตรงไหนในบ้านนี้ ถ้าศักดิ์ศรีหาไม่ก็ใจสลาย ถ้าขอร้องแล้วไม่รู้ก็สู้ตาย จะไม่ขายวิญญาณขอทานกิน คือระบบอุปถัมภ์อันซ้ำซาก แล้วโยนกากให้มวลชนคนท้องถิ่น ชนชั้นกลางแบ่งสมบัติปล้นรัฐกิน คนที่อยู่ติดดินต้องกินเกลือ โจรพันธมิตรฯ เหตุที่ไม่มีใครจับ เพราะเขารับจ้างคนที่อยู่เหนือ กระชากชาติมาขยุ้มไม่คลุมเครือ ยังรอดตัวเหลือเชื่อเพราะเอื้อกัน ประชาชนก้าวหน้าเวลานี้ ย่อมรู้ดีทุกๆ เรื่องเบื้องหลังนั่น ....(เสียงไม่ชัด) เพราะทักษิณกล้าเปลี่ยนประเทศชาติ ด้วยอำนาจมวลชนคนทั้งหลาย เพราะตั้งใจเกินขั้นจึงอันตราย ถูกทำลายทุกๆ จุดไม่หยุดยิง ขอขอบคุณที่สามานย์กันแสบไส้ ยึดสนามบินไว้ก็ดียิ่ง ยึดทำเนียบรัฐบาลมันส์จริงๆ เพราะทุกสิ่งช่วยยืนยันใครบัญชา จากนี้ไปแบ่งออกไม่หลอกเล่น ใครอยากเป็นทาสตลอดไปกอดขา ใครอยากมีศักดิ์ศรีอย่าลีลา ร่วมประชาธิปไตยไม่ต่อรอง พี่น้องครับใกล้วันสำคัญแล้ว มาวางแนวปวงชน คนทั้งผอง ประเทศนี้คือของเรา เราครอบครอง ด้วยครรลองเสรี มีศีลธรรม อย่าไปด่าหมาใครเขาใช้เห่า มันก็เฝ้าเห่าทั้งวันลั่นยันค่ำ รำคาญหมาตีเจ้าของต้องช่วยจำ เจ้าของกรรมชั่วที่ก่ออย่าต่อรอง ต้องช่วยกันอธิบายให้ความรู้ เอาความจริงขึ้นสู้ไม่มีสอง กระเทาะแผ่นผิวฉาบที่ทาบทอง ให้เห็นของแท้ทั้งนั้นสันดานจริง ยุคนี้กรรมแม้นิดจังติดจรวด ตามไล่กวดทุกคนถึงบนหิ้ง คนที่ทำกรรมดีก็ดีจริง ขอจงหยิ่งในวิญญาประชาธิปไตย”

ไม่มีความคิดเห็น: